ALLWELL ยังคงร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการช่วยเหลือสังคม ผ่านการสนับสนุนรายการ “ปัญญาปันสุข” อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2563 จนถึงปัจจุบัน (2568) โดยมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์และสิ่งของจำเป็นแก่ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยที่ขาดแคลน สะท้อนถึงเจตนารมณ์ของ ALLWELL ในการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยให้มีสุขภาพที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน ตอกย้ำแนวทางการดำเนินธุรกิจที่ไม่เพียงให้ความสำคัญกับคุณภาพสินค้า แต่ยังมุ่งมั่นสร้างคุณค่ากลับคืนสู่สังคมด้วยหัวใจแห่งการให้
วันที่ 28 มกราคม 2568 : น้องเฟรช - น้องปุณ
น้องเฟรซและน้องปุณ สองพี่น้องที่ต้องเผชิญชะตากรรมอันหนักหนาตั้งแต่วัยเด็ก หลังจากพ่อแม่จากไป พวกเขาเติบโตขึ้นมาภายใต้การดูแลของคุณตาคุณยายที่เลี้ยงดูหลานถึงสี่คน แม้จะมีภาระหนัก แต่ทั้งสองคนก็มีความรักและผูกพันกับตายายเสมือนเป็นพ่อแม่แท้ ๆ เคราะห์ร้ายคุณตาล้มป่วยเป็นอัมพฤกษ์ ส่งผลให้คุณยายต้องกลายเป็นเสาหลักของครอบครัว แต่ภาระก็ยิ่งทวีคูณเมื่อต้องกู้เงินเพื่อรักษาคุณตา น้องเฟรซและน้องปุณจึงต้องช่วยเหลือทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ ตั้งแต่วัยอนุบาล
ต่อมาคุณยายประสบอุบัติเหตุถูกรถชน ได้รับบาดเจ็บที่สะโพกอย่างรุนแรง ต้องเย็บกว่า 50 เข็ม ทำให้ปัจจุบันยังคงมีอาการเจ็บปวดขณะทำงาน แต่ด้วยความจำเป็นต้องหาเลี้ยงหลาน คุณยายจึงยังคงอดทนทำงานต่อไป สถานการณ์เลวร้ายยิ่งขึ้นเมื่อเกิดวิกฤตโควิด-19 ครอบครัวต้องสูญเสียรายได้ จนถึงขั้นต้องอาศัยอาหารจากวัดเพื่อประทังชีวิต อย่างไรก็ตาม น้องเฟรซและน้องปุณยังคงทำงานทุกอย่างที่ทำได้เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระ
ด้วยเหตุนี้ ALLWELL จึงขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือครอบครัวของน้องเฟรซและน้องปุณ ด้วยการมอบอุปกรณ์ดูแลสุขภาพเพื่อบรรเทาความยากลำบาก ได้แก่
- อุปกรณ์พยุงร่างกายนำเข้าจากญี่ปุ่น เพื่อช่วยลดอาการเจ็บปวดของคุณยายจากการทำงานหนัก
- โลชั่นออร์แกนิก ช่วยบำรุงผิวจากความแห้ง แตก และคัน โดยมีความอ่อนโยน ปลอดภัย สามารถใช้ได้ทั้งคุณยายและหลาน ๆ
- ทิชชู่เปียกออร์แกนิก สำหรับทำความสะอาดทั้งร่างกายและสิ่งของ อีกทั้งยังสามารถย่อยสลายได้ ไม่ก่อให้เกิดขยะตกค้าง
ALLWELL เชื่อมั่นว่าการดูแลกันและกันคือหัวใจสำคัญของสังคม และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าความช่วยเหลือนี้จะเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้กับครอบครัวของน้องเฟรซและน้องปุณในการก้าวผ่านทุกอุปสรรคต่อไป
วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2568 : ป้าหนูเล็ก
คุณป้าหนูเล็ก ลืมตาดูโลกมาพร้อมกับร่างกายที่แตกต่าง มีเพียงครึ่งท่อนและแขนซ้ายเพียงข้างเดียว แต่สิ่งที่ป้าหนูเล็กได้รับมาเต็มเปี่ยมคือความรักและกำลังใจจากครอบครัว ซึ่งคอยสนับสนุนให้สามารถดูแลตนเองได้อย่างเข้มแข็ง
แม้ร่างกายจะเป็นข้อจำกัด แต่หัวใจของป้าหนูเล็กไม่เคยยอมแพ้ มุ่งมั่นทำงานบ้าน ดูแลคนในครอบครัวมาตั้งแต่วัยเยาว์ ก่อนพัฒนาตนเองจนสามารถประกอบอาชีพค้าขาย ด้วยสองมือและหัวใจที่มุ่งมั่น เมื่อพี่สาวจากไป ป้ายังคงก้าวเดินต่อด้วยพลังแห่งความรัก รับภาระดูแลหลานจนเรียนจบปริญญา แม้ต้องใช้ชีวิตอย่างลำบาก กินข้าววัดอยู่นานถึง 3 ปี แต่ป้าหนูเล็กก็ไม่เคยย่อท้อ ใช้ฝีมือทำกล้วยทอดขายจนเป็นที่ถูกใจลูกค้า และยังแบ่งปันความรู้ ถ่ายทอดวิชาให้ชุมชนได้นำไปต่อยอดสร้างรายได้
แต่ชีวิตก็ยังคงทดสอบหัวใจที่แกร่งกล้า เมื่อป้าหนูเล็กพบว่า ตนเองมีเนื้องอกในมดลูก แต่ยอมอดทนต่อความเจ็บปวดมาเป็นเวลาหลายปี เพียงเพราะไม่ต้องการเป็นภาระของใคร แม้เคราะห์กรรมจะซ้ำเติม แต่หัวใจของท่านไม่เคยอ่อนแอ ยังคงสู้ทำงานหาเลี้ยงชีพอย่างไม่ย่อท้อ
ALLWELL ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งต่อกำลังใจให้กับคุณป้าผู้เปี่ยมด้วยพลังชีวิต ด้วยการมอบ รถเข็นวีลแชร์ไฟฟ้า เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการเคลื่อนไหว ให้ป้าหนูเล็กสามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้อย่างคล่องตัว ไม่ต้องพึ่งพาใคร และยังคงใช้ชีวิตด้วยพลังใจอันเข้มแข็งต่อไป
วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568 : คุณตั้ม
ชีวิตของคุณตั้มต้องเผชิญกับบททดสอบอันหนักหน่วง ตั้งแต่วัยเยาว์เกิดมาในครอบครัวที่ยากจน ต้องเก็บขยะขาย เขาเลือกเสียสละอนาคตของตนเองเพื่อครอบครัว ยอมลาออกจากโรงเรียนเพื่อให้น้องสาวได้เรียนต่อ แต่แล้วชีวิตก็พลิกผัน อุบัติเหตุทางรถยนต์พรากการเคลื่อนไหวของเขาไปอย่างสิ้นเชิง คุณตั้มกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง ความรู้สึกสิ้นหวังถาโถม จนถึงขั้นคิดจบชีวิตตัวเองถึงสองครั้ง
ในช่วงเวลาที่มืดมนที่สุด ผู้เป็นแม่คือแสงสว่างเดียวที่ฉายเข้ามา ท่านอยู่เคียงข้าง คอยให้กำลังใจ และช่วยทำกายภาพบำบัดทุกวัน จนในที่สุดคุณตั้มสามารถนั่งทรงตัวได้อีกครั้ง จึงหันมาช่วยเหลือครอบครัว ทำงานรับจ้างลับมีดกรีดยาง ช่วยแม่แยกขยะขาย หาเงินรักษาพ่อที่ป่วยด้วยโรคมะเร็งจนหมดตัว
บททดสอบชีวิตยังไม่จบเพียงเท่านั้น น้องสาวทอดทิ้งลูกไว้ให้เลี้ยง ทั้งที่ตัวเองยังลำบากถึงขั้นไม่มีเงินซื้อข้าวกิน สุดท้ายเขาต้องตัดสินใจขายรถกระบะคันสุดท้ายที่เคยใช้เก็บของเก่าเพื่อประทังชีวิตทั้งครอบครัว
ถึงแม้เดินไม่ได้ แต่คุณตั้มยังมีหัวใจนักสู้ เขาตัดสินใจกู้เงินมาลงทุนเลี้ยงไก่ หวังสร้างอาชีพเลี้ยงตัวเองและครอบครัว แต่เคราะห์กรรมก็ซ้ำเติม น้ำท่วมพัดพาความหวังไปพร้อมกับชีวิตไก่ทั้งเล้า พ่อที่ป่วยทรุดหนักจนต้องใช้เงินรักษาจนหมดตัว ขณะที่แม่กลายเป็นเสาหลักเพียงหนึ่งเดียว ต้องขี่รถพ่วงตระเวนเก็บขยะหาเงิน


ALLWELL ขอร่วมเป็นกำลังใจให้กับคุณตั้ม ด้วยการมอบ รถเข็นวีลแชร์ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวัน พร้อมมอบที่นอนโฟมป้องกันแผลกดทับ ที่จะช่วยดูแลและป้องกันแผลกดทับภาวะร้ายที่นำมาซึ่งโรคแทรกซ้อนและค่าใช้จ่ายมากมาย ALLWELL ขอให้ชื่นชมหัวใจที่เข้มแข็งของคุณตั้ม และให้กำลังในการเดินหน้าต่อไป
วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 : น้องนนท์
น้องนนท์ เด็กชายวัย 11 ปี ผู้ไม่เคยได้สัมผัสอ้อมกอดของพ่อแม่ ถูกทิ้งตั้งแต่เกิดให้ตาและยายเลี้ยงดู ทำให้ทั้งสองต้องตรากตรำทำงานหนัก รายได้ไม่เคยพอ ทั้งครอบครัวต้องอยู่ในบ้านเก่าที่ผุพัง ไม่มีเงินซ่อม ไม่มีแม้แต่ข้าวให้กินอิ่ม น้องนนท์เติบโตขึ้นท่ามกลางความลำบาก อดมื้อกินมื้อ ต้องคุ้ยขยะเก็บของกินประทังชีวิต ขอข้าวเหลือจากโรงเรียนกลับบ้านเพื่อแบ่งให้ตากับยาย
แล้วโชคชะตาก็เล่นตลกอีกครั้ง คุณตาประสบอุบัติเหตุจนทำงานต่อไม่ได้และถูกไล่ออก สูญเสียรายได้หลักของครอบครัว น้องนนท์ต้องลุกขึ้นมาช่วยแบกผ้าไปส่งเช้าเย็น แม้ยังเป็นแค่เด็กแต่ชีวิตก็ยังไม่หยุดทดสอบหัวใจดวงนี้
ต่อมาคุณยายล้มป่วยหนัก ติดเชื้อในกระแสเลือด ต้องนอน ICU ในขณะนั้น น้องนนท์อายุเพียง 8 ขวบ กลับกลายเป็นเสาหลักเพียงคนเดียวในบ้าน รับจ้างทุกอย่างเพื่อหาเงินรักษายาย ทั้งล้างจาน เสิร์ฟอาหาร รับของมาขาย เคราะห์หนัก ร้านค้าที่เคยช่วยเหลือปิดกิจการ รายได้ทั้งหมดหายไป ครอบครัวต้องค้างค่าเช่าบ้านหลายเดือน จนใกล้ถูกไล่ออก ไม่มีแม้ที่ซุกหัวนอน
ALLWELL ขอร่วมส่งต่อกำลังใจให้กับครอบครัวน้องนนท์ ด้วยการมอบ รถเข็นวีลแชร์ล้อใหญ่ ให้คุณยาย เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวัน ให้ผู้หญิงคนหนึ่งที่เลี้ยงหลานมาด้วยหัวใจ ยังสามารถใช้ชีวิตต่อได้อย่างมีความสุข และให้หัวใจเล็ก ๆ ที่ยิ่งใหญ่ของน้องนนท์ยังมีแรงสู้ต่อไป
วันที่ 4 มีนาคม 2568 : น้องผิงผิง
น้องผิงผิง เติบโตมาด้วยแรงบันดาลใจจากคุณพ่อ ผู้ป่วยเป็นโรคโปลิโอ แต่ไม่เคยยอมแพ้ต่อโชคชะตา พ่อของเธอฝ่าฟันทุกอุปสรรคด้วยหัวใจนักสู้ จนกลายเป็นนักกีฬาทีมชาติไทยในระดับอาเซียนพาราเกมส์ แต่แล้วคุณพ่อต้องเผชิญกับโรคร้ายหลายชนิด แต่กลับละเลยการรักษา เพื่อไม่ให้กระทบการแข่งขัน หวังนำรายได้จากสนามกีฬากลับมาเลี้ยงดูครอบครัว สุดท้าย หัวใจที่เสียสละมาตลอด หยุดเต้นกลางสนามแข่งขัน เขาน็อกหมดสติ และกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงในที่สุด
แม้คุณแม่จะลุกขึ้นมารับหน้าที่แทน แต่โชคชะตากลับโหดร้ายซ้ำสอง แม่ตรวจพบมะเร็งเต้านม และต้องเข้ารับการผ่าตัดจนไม่สามารถทำงานหนักได้ ครอบครัวนี้จึงตกอยู่ในภาวะไร้รายได้ น้องผิงผิง แม้จะเป็นเด็กเรียนดี มีอนาคตสดใสรออยู่ แต่เธอต้องตัดสินใจ ลาออกจากโรงเรียนเพื่อทำงานรับจ้างทุกอย่าง หาเงินเลี้ยงครอบครัว ดูแลพ่อที่ติดเตียง และแม่ที่อ่อนแรงลงทุกวัน
ALLWELL ขอร่วมเป็นแรงสนับสนุน ด้วยการมอบ ที่นอนโฟมป้องกันแผลกดทับ ให้กับคุณพ่อของน้องผิงผิง เพื่อบรรเทาอาการแผลกดทับจากการนอนติดเตียง และลดภาระในการดูแลลง ให้หัวใจดวงน้อยที่แบกทุกอย่างไว้บนบ่า ได้มีเวลาพักมากขึ้น และเพื่อให้ฮีโร่ของเธอยังได้รู้ว่า ความรักและแรงใจของเขา ไม่ได้สูญเปล่า
วันที่ 10 มีนาคม 2568 : แม่แป้น
แม่แป้น ผู้หญิงธรรมดา ๆ คนหนึ่ง ที่เคยเผชิญกับความผิดหวังในชีวิตคู่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จากความรักที่เริ่มต้นด้วยคำหลอกลวง ว่าไม่มีครอบครัว จนเกือบตัดสินใจทำแท้งด้วยความสิ้นหวัง แม้จะเข้มแข็งลุกขึ้นมาเริ่มต้นใหม่ กลับต้องเจอกับสามีที่ไม่เคยร่วมรับผิดชอบใด ๆ ทำให้เธอต้องกลายเป็นทั้งพ่อและแม่ เลี้ยงดูลูกน้อยเพียงลำพัง
ความเครียดสะสมและความเหนื่อยล้าเรื้อรัง นำไปสู่โรคเส้นเลือดในสมองตีบ ร่างกายอ่อนแอ แต่หัวใจของแม่ไม่เคยหยุดสู้ แม่แป้นต้องฝืนลุกขึ้นมาทำงานหนัก แม้ต้องอดมื้อกินมื้อเพื่อลูก ๆ ทั้งสอง จนเคยคิดสั้น แต่ด้วยความรักแม่ของลูกทั้งสองก็ทำให้ผ่านพ้นเรื่องเลวร้ายไปได้ ซ้ำร้ายปัจจุบันแม่แป้นพบว่าตัวเองมีซีสต์ในมดลูก เธอก็ยังเลือกที่จะไม่รักษา เพราะกลัวไม่มีเงินพอให้ลูกได้กินข้าว
ด้วยหัวใจของความเป็นแม่ผู้เสียสละ ALLWELL ขอยืนเคียงข้างแม่แป้น ด้วยการมอบชุดอุปกรณ์ดูแลสุขภาพ ได้แก่ เครื่องวัดความดัน, เครื่องวัดอุณหภูมิ และทิชชู่เปียกออร์แกนิก เพื่อให้แม่แป้นได้มีตัวช่วยดูแลสุขภาพ และไม่ต้องแบกรับทุกอย่างเพียงลำพัง เพราะเรารู้ดีว่า หัวใจของแม่ คือสิ่งมหัศจรรย์ที่สุดในโลกใบนี้ ALLWELL ขอเป็นกำลังใจให้แม่แป้นยืนหยัดสู้ต่อไป
วันที่ 18 มีนาคม 2568 : ยายแจ๋ว
คุณยายแจ๋ว วัย 80 ปี ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่ควรได้ใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างสงบ แต่กลับต้องพยุงร่างกายที่อ่อนล้า เกาะรถเข็นช่วยเดิน เร่ขายข้าวต้มมัดตั้งแต่เช้าจรดเย็น เพื่อหาเลี้ยงดูสามีที่ป่วยติดเตียง และลูกสาววัย 60 ปีที่ป่วยจนเดินไม่ได้ ยายแจ๋ว กลายเป็นเสาหลักของบ้าน ต้องดูแลผู้ป่วยถึงสองชีวิต โดยไม่เคยปริปากบ่น
แม้สุขภาพของตนเองจะถดถอยลงตามวัย แต่คุณยายยังฝืนยืนหยัด ทำข้าวต้มมัดขายกับลูกสาว หารายได้ประทังชีวิตด้วยสองมือที่ไม่เคยยอมแพ้ โชคดีที่เพื่อนบ้านน่ารัก คอยช่วยเหลือและอุดหนุนอยู่เสมอ แต่โชคร้ายก็ไม่เคยห่าง เมื่อลูกสาวเกิดแผลกดทับรุนแรงจนติดเชื้อ ต้องเข้ารับการผ่าตัด ทำให้ชีวิตที่ยากอยู่แล้ว ยิ่งลำบากกว่าเดิม


ALLWELL ขอร่วมแบ่งเบาภาระของคุณยายแจ๋ว ด้วยการมอบ รถเข็นวีลแชร์ไฟฟ้า ALLWELL ให้ลูกสาวของคุณยาย เพื่อให้สามารถเคลื่อนไหวและดำเนินชีวิตได้อย่างสะดวก ปลอดภัย และพึ่งพาตนเองได้มากขึ้น พร้อมมอบ รถเข็นช่วยเดินรุ่น Walk A ให้คุณยายแจ๋ว เพื่อเป็นอีกหนึ่งแรงพยุงที่ทำให้แม่คนหนึ่ง ยังคงยืนหยัดต่อไปได้ เพราะในวันที่ทั้งบ้านไม่มีใครลุกไหว หัวใจของ “แม่” ยังลุกขึ้นได้เสมอ
วันที่ 24 มีนาคม 2568 : น้องสุเทพ- น้องใบเตย
น้องสุเทพ วัย 15 ปี และน้องใบเตย วัย 14 ปี และน้องๆ อีกสองคน ที่ต้องเติบโตขึ้นท่ามกลางความรุนแรงและความเจ็บปวดในครอบครัวจากพ่อผู้ติดสุรา พ่อป่วยหนักด้วยโรคตับแข็งจนทำงานไม่ได้ แม่ผู้กลายเป็นเสาหลักก็จมอยู่ในความเครียดจนหันมาใช้เหล้าเป็นที่พึ่งอีกคน ไม่นานเมื่อพ่อจากไป น้องสุเทพและน้องเตยกลับลุกขึ้นยืนด้วยหัวใจเข้มแข็ง เริ่มรับจ้าง ขายของ หาเลี้ยงครอบครัวแทนแม่ แต่แม่ผู้ติดสุราหนัก ได้กระเพาะทะลุและจากโลกนี้ไปอีกคน
แม้หัวใจจะเจ็บปวดเกินวัย แต่น้องสุเทพและน้องใบเตยก็ยังเดินหน้าสู้ ดูแลน้อง ๆ อีกสองคนที่เหลืออยู่ และหาทางประคับประคองชีวิตด้วยความไม่ยอมแพ้ โดยมีคุณยายวัย 70 ที่คอยช่วยเหลือ และโชคดีที่มีผู้ใหญ่ใจดีสอนการทำโรตี จึงได้ประกอบอาชีพขายโรตีจนเลี้ยงชีพได้ แต่คุณยายเองก็เริ่มป่วยด้วยโรคเรื้อรังหลายอย่าง ทำให้น้อง ๆ ต้องเข้มแข็งขึ้นอีกเท่าตัว เพื่อดูแลหลายชีวิตในบ้าน
ALLWELL ขอมอบอุปกรณ์ดูแลสุขภาพ อาทิ เครื่องวัดความดัน ปรอทวัดไข้ และทิชชู่เปียกออร์แกนิก เพื่อเป็นกำลังใจเล็ก ๆ และแทนความห่วงใยในสุขภาพ ที่ช่วยให้พวกเขาดูแลกันและกันได้ดีขึ้นในทุกวัน
วันที่ 1 เมษายน 2568 : แม่เอ๋
ตั้งแต่เด็กชีวิตของแม่เอ๋เต็มไปด้วยความลำบาก พ่อแม่ยากจนและแยกทางกันตั้งแต่เด็ก เด็กหญิงคนหนึ่งต้องเติบโตมาอย่างไร้ที่พึ่งพิง แต่เธอก็พยายามดิ้นรนส่งตัวเองเรียนจนจบ ปวช. เมื่อเติบโตขึ้น แม่เอ๋มีครอบครัวเล็ก ๆ ที่อบอุ่น และมีลูกสาวหนึ่งคนที่เป็นดังแสงสว่างของชีวิต แต่แล้วแสงนั้นก็ดับลง เมื่อลูกสาวเสียชีวิตด้วยโรคไข้เลือดออก เหลือเพียงความว่างเปล่าและหัวใจที่แตกสลาย จนเกือบจะจบชีวิตตามลูกไป โชคดีที่แม่ของเธอช่วยยื้อเธอกลับมาได้ทันเวลา
เธอลุกขึ้นสู้อีกครั้ง พยายามสร้างชีวิตใหม่ และมีลูกคนที่สอง แต่เคราะห์กรรมก็ยังไม่จบ เมื่อสามีถูกรถชนสาหัสจนกลายเป็นอัมพาตติดเตียง แม่เอ๋ต้องทิ้งงานเพื่อดูแลเขาอย่างใกล้ชิด และเมื่อลูกคนที่สองถูกวินิจฉัยว่าเป็นออทิสติก ความรับผิดชอบที่หนักอยู่แล้ว กลับกลายเป็นภาระที่แทบจะไม่อาจแบกไหว เธอเป็นทั้งแม่ เป็นทั้งพยาบาล และเป็นหัวหน้าครอบครัว เหนื่อยทั้งกายและปวดร้าวทั้งใจ
แม้กระนั้น เธอก็ไม่เคยหยุดสู้ วันเวลาผ่านไป อาการของสามีเริ่มดีขึ้น เธอเริ่มมีความหวังอีกครั้ง แต่แล้วเคราะห์ร้ายก็ย้อนกลับมาอีก สามีป่วยด้วยเส้นเลือดในสมองตีบ และโรคซึมเศร้า แม่เอ๋ต้องกลับมาเริ่มต้นใหม่อีกครั้งในห้วงแห่งความเจ็บปวด ขณะที่ร่างกายของเธอก็เริ่มทรุดโทรมตาม แต่ก็ไม่มีทั้งเงินและเวลาจะไปหาหมอ


ALLWELL ขอเป็นอีกหนึ่งแรงใจ ร่วมส่งต่อความห่วงใยให้คุณแม่เอ๋ ผู้ไม่เคยยอมแพ้ต่อโชคชะตา แม้ต้องดูแลทั้งสามีที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง และลูกที่เป็นออทิสติก พร้อมทั้งเผชิญความทุกข์ยากในชีวิตมาอย่างยาวนาน ALLWELL ขอร่วมแบ่งเบาภาระ ด้วยการมอบ รถเข็นวีลแชร์ สำหรับสามีคุณแม่เอ๋ รวมถึงเครื่องวัดความดัน, เครื่องวัดน้ำตาลในเลือด, และ ทิชชู่เปียกออร์แกนิก เพื่อใช้ในการดูแลสุขภาพเบื้องต้นภายในบ้าน ลดภาระในการเดินทางไปโรงพยาบาล และช่วยให้ครอบครัวมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในทุกวัน
วันที่ 8 เมษายน 2568 : คุณเมย์ - คุณพร
ตั้งแต่ลืมตาดูโลก คุณเมย์ไม่เคยรู้จักความอบอุ่นจากพ่อแม่ เพราะทั้งสองเสียชีวิตไปตั้งแต่เธอยังเล็ก เธอเติบโตมาท่ามกลางความว่างเปล่า อาศัยความรักและความเสียสละของคุณยายที่คอยเลี้ยงดู ด้วยหัวใจที่ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา คุณเมย์ขยันทำงานทุกอย่าง ส่งตัวเองเรียนจนจบ จนได้ทำงานเป็นดีเจเสียงตามสาย และจากเสียงเพลงในอาชีพนั้นเอง เธอได้พบกับคุณพร ชายผู้ทำให้หัวใจของเธอมีชีวิตอีกครั้ง ทั้งคู่ตัดสินใจแต่งงาน ใช้ชีวิตด้วยกันอย่างเรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยความรัก
แต่แล้วความสุขที่เพิ่งเริ่มต้น กลับถูกพรากไปอย่างโหดร้าย เมื่อวันหนึ่งคุณเมย์ประสบอุบัติเหตุรถชน ขณะกำลังนำขนมไปส่งขาย ผลจากอุบัติเหตุนั้นทำให้เธอพิการ ขาทั้งสองข้างไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป และต้องกลายเป็นผู้ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ หัวใจของหญิงแกร่งแทบสลาย เธอรู้สึกหมดคุณค่า ไม่อยากเป็นภาระคนที่เธอรัก ถึงขั้นตัดสินใจจะขอไปอยู่สถานสงเคราะห์ แต่คุณพร ผู้เป็นสามีกลับจับมือเธอไว้แน่น แม้ครอบครัวของคุณพรจะคัดค้าน แต่เขาก็ยืนยันหนักแน่นว่าจะดูแลภรรยาคนนี้จนกว่าจะสิ้นชีวิต
เขาออกไปเร่ขายของทุกวัน เพื่อหาเงินเลี้ยงดูครอบครัวเล็กๆ ที่มีเพียงรักแท้เป็นเสบียง ในขณะที่คุณเมย์ แม้จะเคยคิดจบชีวิต แต่กลับเปลี่ยนความสิ้นหวังให้เป็นพลัง ด้วยหัวใจที่ได้รับการเยียวยาจากคนที่เธอรักที่สุด จากชีวิตที่เคยหมดหวัง วันนี้คุณเมย์และคุณพรได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้ใครอีกหลายคน



ALLWELL ขอร่วมส่งต่อกำลังใจให้ชีวิตคู่อันงดงามของคุณเมย์และคุณพร ด้วยการมอบรถเข็นวีลแชร์น้ำหนักเบา พับเก็บพกพาง่าย รุ่น MoveD1 พร้อมรถเข็นอาบน้ำและนั่งถ่าย รุ่น Moem จากสเปน และอุปกรณ์ดูแลสุขภาพ ได้แก่ เครื่องวัดน้ำตาลในเลือด GlucoAll-1B ทิชชู่เปียกออร์แกนิก อ่อนโยน ปลอดภัย เพื่อให้คุณเมย์และคุณพรสามารถดูแลสุขภาพกันเองได้ที่บ้าน เพราะความรักที่แท้…คือการดูแลกันทุกวัน
วันที่ 22 เมษายน 2568 : แม่รัศมี
คุณแม่รัศมี อายุ 53 ปี ผู้หญิงแกร่งที่ชีวิตลำบากมาตั้งแต่ลืมตาดูโลก เติบโตในเพิงเล็กใต้สะพาน ต้องคุ้ยขยะประทังชีวิต ไม่เคยได้เรียนหนังสือ และต้องออกทำงานเลี้ยงชีพตั้งแต่เด็กเพียงลำพัง เมื่ออายุ 15 ปี ต้องสูญเสียพ่อแม่ไป ชีวิตที่ไร้ที่พึ่งพิง ทำให้ถูกหลอกใช้ในทางที่ผิด จำใจเข้าสู่เส้นทางขายบริการ เพื่อหาเงินเลี้ยงดูน้อง แม้ทุกก้าวจะเต็มไปด้วยความเจ็บปวด แต่เธอก็ยืนหยัดทำหน้าที่พี่สาว ดูแลน้องที่ป่วย และส่งอีกคนเรียนจนจบ
ชีวิตคุณรัศมีเริ่มเปลี่ยน เมื่อพบชายผู้เห็นค่าหัวใจของเธอ ทั้งคู่ช่วยกันเก็บขยะขาย สร้างครอบครัวเล็ก ๆ และมีลูกด้วยกัน 3 คน แต่ความสุขก็อยู่ได้ไม่นาน เพราะสามีป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ไม่มีเงินรักษา และจากไป ไม่มีแม้แต่เงินทำศพ แม่รัศมีต้องเลี้ยงลูก 3 คนเพียงลำพัง สุดท้ายต้องจำใจฝากลูก 2 คนให้คนอื่นดูแล เพราะต้องดูแลลูกที่เป็นดาวน์ซินโดรมและป่วยด้วยโรคลิ้นหัวใจรั่วเพียงลำพัง
เมื่อลูกต้องผ่าตัดหัวใจ แต่ไม่มีเงินรักษา ความจนบีบคั้นจนตัดสินใจผิดพลาด หันไปขายยาเสพติด จนถูกจับและต้องพาลูกเข้าไปเลี้ยงในคุกด้วย ต่อมาเธอพบว่าตนเองป่วยเป็นมะเร็งเต้านม ต้องตัดเต้านมทิ้งทั้งสองข้าง หลังพ้นโทษ แม่รัศมีอาศัยอยู่ในกระต๊อบเล็ก ๆ ภายในวัดกับลูกสองคน และยังคงเป็นแม่ที่ไม่ยอมแพ้ เดินขายพวงมาลัยริมถนนทุกวัน เพื่อเลี้ยงดูลูก แม้ปัจจุบันเธอจะป่วยเป็นเส้นเลือดในสมองตีบ จนกลายเป็นอัมพาตครึ่งซีก แต่ก็ยังยืนหยัด ไม่ยอมไปหาหมอ เพราะเธอเลือกเก็บเงินไว้ ให้ลูกได้มีโอกาสรักษาตัวก่อน


ALLWELL ขอเป็นอีกหนึ่งแรงใจ ร่วมสนับสนุนให้ครอบครัวของคุณแม่รัศมีมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ด้วยการมอบ รถเข็นวีลแชร์ สำหรับคุณแม่ พร้อมด้วย เครื่องวัดความดัน, เครื่องวัดน้ำตาลในเลือด, และทิชชู่เปียกออร์แกนิก เพื่อให้สามารถดูแลสุขภาพเบื้องต้นได้ที่บ้าน ตรวจเช็กอาการได้ทุกวัน โดยไม่ต้องเดินทางไปโรงพยาบาล ลดภาระการเดินทาง และเพิ่มเวลาในการพักผ่อนทั้งของคุณแม่รัศมีและลูก